ไม่มีใครทราบได้ว่าสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้นเมื่อใดแน่?
เพียงแต่
"นอสตราดามุส"กล่าวเป็นนัยว่า
สงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดภายหลังจากเกิดการ
เปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซีย
โดยจะเกิดการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย
จากนั้นรัสเซียจะเป็นพันธมิตรร่วมรบกับสหรัฐอเมริกา
โดยทำการรบปราบฝ่ายตะวันออก ซึ่งเป็นกอง
กำลังผสมร่วมของฝ่ายอาหรับกับจีน
โดยสรุปภาพรวมของสงครามโลกครั้งที่สาม
นอสตราดามุสเชื่อว่า
จะมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์แบบยุทธศาสตร์ (Strategic Nuclear Weapons) และอาวุธนิวเคลียร์แบบยุทธวิธี
(Tactical Nuclear Weapons) . ในขณะที่กำลังคนและอาวุธยุทธภัณฑ์ในแบบปกติ
จะเป็นฝ่ายชี้ขาด ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากสงครามโลกครั้งที่สองเท่าไรนัก
---นี่น่าสนใจศึกษา
สงครามโลกครั้งที่สาม แต่ก่อนในยุคสงครามเย็น
โลกก็ต่างจ้องไปที่รัสเซีย-สหรัฐฯ
คู่ต่อสู้สำคัญในการที่จะนำมาซึ่งความหายนะของโลก ทว่านอสตราดามุส
กลับมองไปอีกอย่าง---
นอสตราดามุส บอกว่า
ประเทศจีนกับประเทศตะวันออกกลาง จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรต่อกัน
เมื่อสงครามโลกอุบัติขึ้น ในขณะที่รัสเซียกับสหรัฐฯ จะร่วมมือกันต่อต้าน
นี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกและใฝ่ใจติดตาม
เมื่อวิเคราะห์คำพยากรณ์ของนอสตราดามุสในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามครั้งใหม่อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว
พอที่จะแบ่งคำพยากรณ์ออกเป็น 9 บท
ซึ่งแต่ละบทได้พรรณนาสงครามในแต่ละช่วงเอาไว้ดังต่อไปนี้:
ในช่วงแรกของสงคราม
อิสราเอลจะเป็นประเทศแรกที่ตกเป็นเหยื่อของแผนพิชิตตะวันออกกลางของเหล่าประเทศอาหรับ
ซึ่งฝ่ายอาหรับไม่เพียงแต่มีแผนที่จะพิชิตตะวันออกกลางเท่านั้น
แต่ก็ยังมีแผนที่จะพิชิตทุกประเทศในทวีปยุโรปอีกต่อไปด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ประเทศกรีซกับประเทศตุรกีก็เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนถึงกับใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกัน
กรีซเป็นฝ่ายแพ้สงครามและได้เปิดการเจรจาสันติภาพที่นครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์
แต่การเจรจากันครั้งนี้ต้องประสบกับความล้มเหลว
สงครามช่วงที่ 2 อุบัติขึ้นทางด้านตะวันออกไกล
เมื่อจีนใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีฝ่ายตะวันตกอย่างฉับพลัน
และยิงระเบิดแบคทีเรียชนิดร้ายแรงไปที่รัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา
เพื่อให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปตามกระแสลมและกระแสน้ำครอบคลุมถึงประเทศต่างๆ
ที่เป็นพันธมิตรของฝ่ายประเทศตะวันตก หลังจากนั้นจีนก็จะใช้กำลังทหารบุกทางภาคใต้ของรัสเซีย
ส่วนฝ่ายกลุ่มประเทศอาหรับ
ก็ไม่ต้องการน้อยหน้ามหาอำนาจทางตะวันออกไกลคือจีน ก็จะดำเนินแผนการรบของตนบ้าง
โดยเคลื่อนกำลังไปทางประเทศตะวันตก ทำการโจมตีชาติต่างๆ ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของตน
ในที่สุดกรุงโรมประเทศอิตาลีก็จะถูกทำลายอย่างย่อยยับ
และจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศอิตาลี
กองกำลังของฝ่ายอาหรับได้เคลื่อนตัวมุ่งสู่พรมแดนของฝรั่งเศส
เป็นเหตุให้ฝรั่งเศสกระโจนเข้าสู่ความขัดแย้งครั้งนี้เพราะสถานการณ์บีบบังคับ
สงครามในช่วงที่ 3
เริ่มขึ้นเมื่อกองทัพฝรั่งเศสเข้าไปตั้งรับฝ่ายอาหรับที่พรมแดนอิตาลี
แล้วต้องประสบกับความพ่ายแพ้
ในขณะที่กองทัพฝรั่งเศสกำลังรวมพลหลังการแพ้สงครามอยู่นั้น
ทางด้านประเทศอังกฤษก็จะเกิดอุทกภัยอย่างร้ายแรงทั่วประเทศ
เมื่อหันไปดูอิตาลีสถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งขึ้น
องค์สันตะปาปาจะถูกบังคับให้เสด็จหนีไปยังดินแดนแห่งใหม่ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆกับที่เจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งประเทศโมนาโกถูกจับกุมตัว
และเมืองเวนิชในประเทศอิตาลีถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์
ในระหว่างช่วงที่ 4 ของสงคราม
ประเทศโมนาโกจะถูกถล่มจนราบคาบ กองทัพจีนจะบุกเข้าโจมตีฝรั่งเศส
กองกำลังร่วมระหว่างจีนกับอาหรับจะยกทัพเข้าโจมตีประเทศสเปน
และระดมทิ้งระเบิดจนทั่วยุโรป ฝ่ายพันธมิตรตะวันตกจะปราชัยอย่างราบคาบ
เมื่อสูญเสียประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และที่มั่นสุดท้ายคือเมืองบลูเจสในประเทศเบลเยี่ยม
และทั่วทั้งยุโรปก็จะตกอยู่ในความยึดครองของฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันออกอยู่เป็นเวลานาน
จนกระทั่งถึงช่วงที่ 7 ของสงครามโลกครั้งที่ 3
กระแสของสงครามจะเปลี่ยนไป โดยสหรัฐอเมริกาและรัสเซียจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง
แต่กว่าจะถึงช่วงนี้ฝ่ายพันธมิตรตะวันออกจะเคลื่อนกำลังเข้าไปในละตินอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่านอสตราดามุสจะไม่ได้พยากรณ์ไว้อย่างแน่นอนว่าเมื่อใดสงครามในตะวันออกไกลจะยุติลง
แต่เขาได้กล่าวไว้ว่าสงครามในแถบนั้นจะยุติลงเมื่อสองอภิมหาอำนาจ คือ
สหรัฐอเมริกาและรัสเซียเริ่มใช้อาวุธเชื้อโรคกับชาวจีน
และบุกโจมตีเข้าไปในดินแดนประเทศนี้
เมื่อฝ่ายพันธมิตรตะวันตกสามารถรวมกำลังพลและกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์มาทุ่มอยู่ทางด้านสมรภูมิทางยุโรป
ก็จะสามารถช่วงชิงยุโรปคืนมาได้ในเวลาไม่นานนัก
จะมีการใช้กองกำลังเรือดำน้ำเข้าโจมตีรวมทั้งใช้อาวุธเชื้อโรคและอาวุธนิวเคลียร์สนับสนุน
กับจะมีการยุทธ์ทางเรือครั้งยิ่งใหญ่นอกฝั่งตะวันตกของประเทศสเปน
และในที่สุดฝ่ายพันธมิตรตะวันตกก็จะสามารถช่วงชิงยุโรปกลับคืนมาได้ทั้งหมด
เมื่อสงครามยุติลง
องค์พระสันตะปาปาประมุขศาสนจักรโรมันคาทอลิกก็จะเสด็จกลับนครวาติกันดังเดิม
แต่เมื่อถึงขณะนั้นนครวาติกันจะถูกฝ่ายตะวันออกทำลายจนหมดสิ้น
เหลือไว้แต่ซากปรักหักพังเป็นอนุสรณ์เท่านั้น
เมื่อพิจารณาในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว
จะเห็นว่ามีประเด็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอยู่ประเด็นหนึ่ง
คือที่นอสตราดามุสพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2043
ว่ากลุ่มประเทศตะวันออกกลางจะมีบทบาทสำคัญในการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 3
คำพยากรณ์นี้อาจจะทำให้บางคนเกิดความรู้สึกลังเลที่จะเชื่อถือ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการที่ประเทศอิสราเอลเคยทำสงครามชนะประเทศเพื่อนบ้านอาหรับมาตลอด
แล้วอย่างนี้ประเทศอาหรับจะมีน้ำยาทำอะไรต่ออิสราเอลได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปัจจุบันชาติต่าง ๆ
ในตะวันออกกลางอาจจะแสดงออกมาว่ายังไม่เข้มแข็งพอแต่ในอนาคตอันใกล้นี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างไม่ต้องสงสัย
ปฏิบัติการของกองกำลังฝ่ายรัฐอิสลาม(ไอสิส) ในกรุงปารีส
ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ดังกล่าว
สะท้อนให้เห็นขีดความสามารถของฝ่ายอาหรับ หรือโลกมุสลิม
ว่ามีความสามารถใช้อาวุธสั้นเท่าที่มีอยู่
ทำการตอบโต้มหาอำนาจตะวันตกที่มีแสนยานุภาพทางทหารพรั่งพร้อมด้วยอาวุธยาวหลากหลายชนิดได้อย่างสบาย
และยังแถมด้วยพวกนี้ได้แทรกซึมเข้าไปในประเทศยุโรปในรูปของผู้ลี้ภัยจากประเทศซีเรียเป็นที่เรียบร้อนแล้วด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นแล้วก็ยังมีชาวมุสลิมอีกเป็นจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปอยู่ในประเทศต่างๆในยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือมาเป็นเวลานานแล้วซึ่งข่าวว่ามีจำนวนรวมกันแล้วประมาณ
30,000
คนและพวกนี้ได้เดินทางเข้าไปช่วยพวกกลุ่มนักรบหัวรุนแรงไอซิสสู้รบทั้งในอิรักและซีเรีย
และมีข่าวด้วยว่าพวกนี้ได้ทยอยเดินทางกลับไปยังไปยังทวีปยุโรปและอเมริกาแล้วประมาณ
20-30 เปอร์เซ็นต์ พวกมุสลิมที่เดินทางกลับบ้านแล้วนี้ก็จะเป็นอาวุธร้ายที่จะทิ่มแทงทำร้ายประเทศตะวันตกทั้งในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาได้อย่างง่ายดายมาก
เหมือนอย่างที่เคยโจมตีสหรัฐอเมริกาเมื่อ ค.ศ. 2001
และโจมตีกรุงปารีสเมื่อไม่นานมานี้
และก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า
ศาสนาอิสลามมีผู้นับถืออยู่ทั่วโลกมากเป็นอันดับสองรองลงมาศาสนาคริสต์ ซึ่งประเมินคร่าวๆแล้วก็มีชาวมุสลิมกระจายอยู่ทั่วโลกไม่น้อยกว่า
1}500 ล้านคน
ชาวมุสลิมเหล่านี้จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนทั้งเปิดเผยและอย่างลับๆแก่ขบวนการต่อต้านชาติตะวันตกซึ่งนำโดยพวกนักรบที่นิยมความรุนแรงอย่างเช่นพวกรัฐอิสลาม
เป้าหมายสำคัญของชาวอาหรับหรือพวกมุสลิมหัวรุนแรงเหล่านี้
ก็คือ
การทำลายระบบรัฐของฝ่ายประเทศตะวันตกและสถาปนารัฐแบบใหม่คือรัฐอิสลามขึ้นในทั่วทุกดินแดนของโลกอาหรับและจะรวมไปถึงดินแดนอื่นๆทั่วโลกไม่ว่าจะในทวีปยุโรป
ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา และทวีปออสเตรเลีย
ปัจจุบันชาติอาหรับต่างๆ
เหล่านี้มีพลังทางเศรษฐกิจอย่างมากมายเนื่องจากมีน้ำมันสำรองอยู่มากนั่นเอง
อิทธิพลของรัสเซียในแถบนั้นได้เสื่อมทรามลงไปเป็นเวลาหลายปีแล้ว
และยิ่งเสื่อมมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อรัสเซียได้ทุ่มสุดตัวในการทำสงครามปราบปรามพวกไอซิสอยู่ในซีเรียในปัจจุบัน
ส่วนอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาก็มีแนวโน้มว่าจะลดน้อยลงในดินแดนแถบนั้นเรื่อยๆ
เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรนาโต้ยืนหยัดอย่างแน่วแน่ที่จะปราบปราบขบวนการก่อการร้ายของพวกหัวรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกรัฐอิสลามและพยายามที่จะปกป้องอิสราเอลอย่างเต็มความสามารถ
เมื่อฝ่ายอาหรับหันหลังให้ลูกพี่เก่าคือสหรัฐอเมริกาและรัสเซียก็จึงหันหน้าไปทางลูกพี่ใหม่คือจีนที่กรุงปักกิ่ง
ฝ่ายอาหรับย่อมสามารถหาพันธมิตรที่จะเต็มใจให้การสนับสนุนพวกเขาในด้านอาวุธนิวเคลียร์
อาวุธแบคทีเรีย อาวุธเคมี และอาวุธแบบปกติอื่น ๆ
เมื่อฝ่ายอาหรับได้อาวุธเหล่านี้จากจีนมาเก็บไว้ในคลังแสงของตนแล้ว
ก็พร้อมที่จะรุกโจมตียุโรปทางตะวันออก ส่วนจีนก็จะโจมตีขนาบยุโรปทางตอนใต้
นั่นคือจุดระเบิดของสงครามโลกครั้งที่ 3
ต่อไปนี้
ขอเชิญท่านผู้อ่านพบกับรายละเอียดของความหายนะของสงครามโลกครั้งที่สามที่ปรากฏอยู่ในคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสได้แล้ว.
ฮูดากกูนี่...ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000
ตอบลบทำนายว่าโลกจะแตก ยังไม่เห็นแตกเลย555
ขี้ตั๋ว กูบ่เชื่อดอก